บล็อกเกอร์นี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อที่จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ได้เข้าเยื่ยมชมและได้ศึกษาในรายวิชา







วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

คุณค่าของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว

น้ำมัน รำข้าวและจมูกข้าว เป็นน้ำมันที่ได้จากกระบวนการพิเศษในการสกัดเอาสารสำคัญที่มีประโยชน์นานา ชนิด ซึ่งมีอยู่ในเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว (Seed Membrane Layer) และจมูกข้าว (Rice Germ) จึงอุดมด้วยสารสำคัญทางธรรมชาติ และมีคุณค่าสูงต่อร่างกายหลายชนิด เช่น กลุ่มวิตามินอี ในกลุ่มโทโคฟีรอล กลุ่มโทโคไตรอีนอล และสารแกมมา โอรีซานอล ( gamma oryzanol ) ที่มาจากคำว่า โอรีซา ซัลทีวา ( Oryza Sativa) ซึ่งแปลว่า ข้าว เป็นสารที่พบในเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว เท่านั้น วิตามินอีจากธรรมชาติจะมีสารต้านอนุมูลอิสระดีกว่าสารสังเคราะห์ทั่วๆไป และสามารอยู่ในร่างกายได้ดีกว่า ช่วยบำรุงและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง ป้องกันผิวหนังแห้งและแตก สารต้านอนุมูลอิสระนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระไปจับตามเซลล์ต่างๆ ได้
แกมม่าออไรซานอล เป็นสาระสำคัญที่พบในรำข้าว จมูกข้าวเท่านั้น เป็นสารประกอบเอสเทอร์ของกรดเฟอริวลิก มีในน้ำมันรำข้าวประมาณ 1.5 – 2% มีคุณสมบัติเป็นสารต้านออกซิเดนท์ ( antioxidant) เช่นเดียวกับโทโคฟีรอลและโทโคไตรอีนอลที่พบมากในน้ำมันทั่วๆไป แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่าถึง 6 เท่า ( ในสภาวะที่อยู่ในน้ำ) จึงทำให้น้ำมันรำข้าวคงสภาพได้นานแม้ว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้น คุณสมบัติทางเคมีก็จะไม่เปลี่ยนแปลง และเมื่อนำไปบริโภคก็จะมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี และช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์อันเป็นสาเหตุของมะเร็ง และชะลอความชรา กลุ่มเซราไมด์ Ceramides เป็นส่วนประกอบหลักของไขมันชั้นสตราตัมคอร์เนียม พบเป็นแผ่นเรียงซ้อนกันอยู่ มีความสำคัญในการสร้าง lipid bilayer และป้องกันการออกซิเดชั่นของผนังเซลล์ และมีความสามารถในการเก็บกักน้ำในผิวหนังได้ดีกว่าไขมันชนิดอื่น การเสริมสร้างเซราไมด์ทั้งในรูปแบบการรับประทานหรือการทำผิว ในรูปแบบของครีม โลชั่น น้ำมัน จะช่วยทำให้ผิวหนังยืดหยุ่น ป้องกันผิวแห้งและมีริ้วรอย นอกจากนั้นเซราไมด์ยังมีคุณสมบัติเป็นไวท์เทนเนอร์ ซึ่งสามารถยับยั้งการสร้างเมลานิน อันเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ
กลุ่มสควอรีน Squalene เป็นสารประกอบ Triterpene ที่มีประมาณ 12% ในไขผิวหนัง ทำหน้าที่ปกคลุมผิวหนัง ป้องกันการสูญเสียน้ำ สร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง ไม่ระคายเคืองผิว ช่วยเพิ่มการดูดซึมของสารต่างๆสู่ผิวหนัง
กลุ่มวิตามิน A ช่วยในการเจริญเติบโต และซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ป้องกันโรคตาฟางในเวลากลางคืน และพัฒนากระดูกและฟัน
กลุ่มวิตามิน B - Complex ใน รำข้าว จมูกข้าวประกอบด้วยวิตามินหลายตัว เช่น B1 ( Thiamine) , B2 (Riboflavin) , B3 ( Niacin) , B 5 ( Pantothenic Acid) และ B6 (Pyridokine) วิตามินบีที่มีประโยชน์เหล่านี้มีหน้าที่สำคัญคือ - ช่วย ให้กลไกภายในร่างกายย่อยคาร์โบไฮเดรตได้ดีขึ้น เมื่อร่างกายต้องการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้เป็นพลังงาน ร่างกายต้องการวิตามินบีหลายตัว ดังนั้นการกินข้าวกล้อง รำข้าว จมูกข้าวจะทำให้มีการเผาผลาญพลังงานได้หมดกว่า ไม่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลสะสมเป็นไขมันใต้ผิวหนัง
- ช่วยสร้างสารต้านอนุมูลอิสระและเม็ดเลือดแดง ช่วยรักษาระดับการหายใจของเซลล์
- ช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนและลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ลดความดันเลือด ช่วยในการดูดซึมโปรตีน ไขมันและน้ำตาล
- ช่วยพัฒนาระบบการทำงานของสมอง ระบบประสาทและช่วยผ่อนคลายความเครียด
- ช่วยในการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ และเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจ
- ช่วยรักษาสมดุลของโซเดียมและฟอสฟอรัสในร่างกาย รวมทั้งมีส่วนในการสร้างกรดอะมิโนแอซิค
- ช่วยรักษาโรคเหน็บชา กลุ่มวิตามิน ซี (Ascorbic Acid) ช่วยสมานแผล รักษาฟัน กระดูก ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก เพิ่มความแข็งแรงให้แก่เส้นเลือด และป้องกันการเกิดสารมะเร็งจากไนเตรต
กลุ่มวิตามินดี ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส และช่วยการทำงานของหัวใจและระบบประสาทส่วนกลาง
กลุ่มโฟลิค แอซิค เป็นส่วนสำคัญในการสร้าง DNA และ RNA ที่สำคัญต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และการเจริญเติบโตของระบบสืบพันธุ์
กลุ่มเกลือแร่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง ประกอบด้วย
แคลเชียม (Calcium) ใช้ในการสร้างกระดูกและฟัน บรรเทาอาการเหน็บชาและโรคปวดตามข้อกระดูก พบว่าแคลเซียมยังเกี่ยวข้องกับ
- การทำงานของเซลล์ต่างๆภายในร่างกาย เช่น ช่วยในขบวนการทำให้เลือดแข็งตัว
- ช่วยทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจปกติ
- รักษาสมดุลของกรดและด่างในเส้นเลือด สามารถต้านความดันโลหิตสูง อาการหัวใจกำเริบ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น